วันพุธที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2556

เพลง

http://www.youtube.com/watch?v=OA3HzeZ6uH8&list=WLDE2E841764CDFFA9

สัตว์โลก




นี้คือ กะจงมีมากในเวียดนาม


วงศ์กระจง (อังกฤษChevrotain, Mouse deer, Napu) เป็นวงศ์ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กวงศ์หนึ่ง ในอันดับสัตว์กีบคู่ (Artiodactyla) ใช้ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Tragulidae
กระจงถือเป็นสัตว์เคี้ยวเอื้อง มีรูปร่างลักษณะทั่วไปคล้ายกับกวาง (Cervidae) มีกระเพาะอาหารแบ่งออกเป็น 4 ส่วน มีการหมักอาหารที่กระเพาะอาหาร แต่กระเพาะห้องที่สามจะลดขนาดลง เหลือไว้เพียงร่องรอยเท่านั้น มีส่วนหัวค่อนข้างเล็ก ไม่มีเขา จะงอยหน้าแหลมและแคบ จมูกไม่มีขน ไม่มีทั้งต่อมที่ใบหน้าและต่อมกับ ขายาวเรียวและเล็ก ตัวผู้ที่โตเต็มวัยมีเขี้ยวงอกจากขากรรไกรบนยาวยื่นออกมาใช้สำหรับป้องกันตัว ส่วนตัวเมียมีเขี้ยวเหมือนกับตัวผู้ แต่มีขนาดเล็กมาก ไม่มีเขาทั้งตัวผู้และตัวเมีย มีระยะเวลาตั้งท้องนานราว 120–180 วัน ตัวเมียสามารถกลับมาเป็นสัดได้ ใน 7 วันหลังจากออกลูก ออกลูกโดยปกติครั้งละ 1 ตัว
ถือได้ว่าเป็นสัตว์กีบที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก ด้วยว่ามีขนาดพอ ๆ กับกระต่ายตัวหนึ่งเท่านั้นเอง พบกระจายพันธุ์ในทวีปแอฟริกาและเอเชีย ในอนุทวีปอินเดีย และเอเชียอาคเนย์
แบ่งออกได้เป็น 3 สกุล 10 ชนิด และสูญพันธุ์ไปแล้วอีก 6 สกุล (ดูในตาราง)
สำหรับในประเทศไทย พบ 2 ชนิด คือ กระจงควาย หรือ กระจงใหญ่) และกระจงเล็ก หรือ กระจงหนู ซึ่งถือได้เป็นสัตว์กีบที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลกด้วย

อาหารที่ชอบ


ประวัติของพิซซ่าเริ่มต้นขึ้นในปี ค.ศ. 79 เมื่อภูเขาไฟวิสุเวียสระเบิดขึ้นและทลายเมืองปอมเปอีทั้งเมือง หลังจากนั้นประมาณ ค.ศ. 640 แกตาโน ฟิโอเรลลี่ ได้ค้นพบเตาฟืนโบราณจำนวนมากมายในซากปรักหักพังของเมือง ที่ถูกลาวาถล่ม หนึ่งในจำนวนเตาทั้งหมดนั้นพบว่ามีเถ้าถ่านขนมปังติดอยู่ในเตาอยู่ถึง 7 กิโลกรัม ซึ่งเป็นหลักฐานที่น่าเชื่อถือว่าทหารโรมันในช่วงเวลาดังกล่าว (ก่อนเมืองปอมเปอีจะถูกถล่มด้วยลาวาและเถ้าภูเขาไฟ) ต่างกินขนมปังที่อบด้วยเตาฟืนโบราณนี้ ซึ่งสันนิษฐาน ได้ว่าชาวเมือง ในเมืองนาโปลีก็ทานขนมปังที่อบในเตาฟืนโบราณเช่นนี้มาประมาณ 700 ปีแล้ว ต่อมาในต้น ค.ศ. 1700 ชาวเมืองนาโปลีจึงได้เริ่มประยุกต์ใส่มะเขือเทศกับสมุนไพรบางอย่างลงในขนมปังแล้วนำไปอบในเตาฟืนโบราณ นี่เองคือจุดเริ่มต้นของมารีนาราพิซซ่า และร้านพิซเซอเรียร้านแรกในนาโปลี ได้เปิดขายในปี ค.ศ. 1830
โดยร้านดังกล่าวใช้วิธีการอบพิซซ่าในเตาที่ทำจากหินภูเขาไฟ อีกประมาณร้อยปีต่อมา (นับจาก ค.ศ. 1700) และชีสเริ่มเข้ามามีอิทธิพลในอาหาร แต่ชีสดังกล่าวไม่ใช่ชีสปกติธรรมดาทั่วไป เป็นชีสที่ทำจากน้ำนมควายพื้นเมืองที่ชื่อ ฟิออเร่ ดี บัฟฟาล่า ประมาณปี ค.ศ. 1850 จึงเกิดพิซซ่ามาเกอริต้าขึ้นโดย ราฟาเอล เอสโปสิโต แห่งเมืองเนเปิล ซึ่งได้ทำพิซซ่าถวายเมื่อคราวที่สมเด็จพระราชาธิบดีอุมแบร์โตที่ 1 และสมเด็จพระราชินีมาเกอริต้าได้เสด็จเยือนเมืองเนเปิล โดยใช้สีบนหน้าพิซซ่าแทนสัญลักษณ์ของธงชาติอิตาลี โดยใช้ใบเบซิลแทนสีเขียวใช้มอสซาเรลล่าชีสแทนสีขาวและมะเขือเทศแทนสีแดง และตั้งชื่อพิซซ่าเพื่อเป็นเกียรติแด่พระราชินีว่า มาเกอริต้า ซึ่งพระนางก็ได้ทรงพระอนุญาตให้ใช้ชื่อพระนางเป็นชื่อของพิซซ่าเมื่อปี ค.ศ. 1889 ซึ่งพิซซ่าดังกล่าวได้กลายเป็นมาตรฐาน ของพิซซ่าในปัจจุบัน ซึ่งพิซซ่าในปัจุบันโดยทั่วไปต่างก็ดัดแปลงหน้ามาจากพิซซ่า 2 ชนิดนี้ ซึ่งเป็นพิซซ่าดั้งเดิมของชาวนาโปลี คือมารีนาราพิซซ่าและมาเกอริต้าพิซซ่า




รถในฝัน




R8 V10
จักรกลทำความเร็วในระดับสุดขั้วของค่าย 4 ห่วง 525 แรงม้า 530 นิวตันเมตร 0-100 ใน 3.8 วินาที กับเจ้าของฉายา The Ironman นี่คือ Audi R8 V10 FSI Quattro ...

การเข้ามาควบรวมกิจการ Lamborghini ของค่ายรถสายพันธุ์เยอรมนี เจ้าของสัญลักษณ์ 4 ห่วงเมื่อกว่าสิบปีก่อนหมายรวมถึงเทคโนโลยีการวางเครื่องยนต์ไว้ที่กลางลำตัว และการ balanced น้ำหนักอันยอดเยี่ยมบนตัวรถสปอร์ตของพวกอิตาเลียนจะต้องตกไปอยู่ในมือของวิศวกรเยอรมนีอย่างช่วยไม่ได้ เป้าหมายของ Audi คือการสร้างซุปเปอร์คาร์เครื่องวางกลางที่มีสมรรถนะเทียบเท่าหรือดีกว่า ซุปเปอร์คาร์จากอิตาลีอย่าง Ferrari และ Lamborghini เพื่อทำให้มันกลายเป็นบทพิสูจน์บนหน้าประวัติศาสตร์ในวงการมอเตอร์สปอร์ตที่ยาวนานกว่า 70 ปีของบริษัท Audi หนึ่งในทีมแข่งผู้คว้าชัยชนะบนสนามแข่งรถยนต์ทางเรียบมากที่สุดติดอันดับต้นๆ ของโลกอากาศพลศาสตร์คือหนึ่งในความสำคัญอันดับต้นๆ ของ Super Car รถ R8 ถูกทดสอบในอุโมงค์ลมในขั้นตอนการพัฒนาเพื่อลดค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านทานของอากาศที่มีผลไปถึงการทำความเร็วและการทรงตัว ตัวถังถูกออกแบบมาให้วิ่งทะลุกำแพง 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยมีวิงหลังอัตโนมัติที่จะยกตัวขึ้นเองหากความเร็วเกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และจะซ่อนตัวเองอย่างมิดชิดจนแทบจะเป็นชิ้นเดียวกับส่วนของบั้นท้ายหากความเร็วไม่ถึงระดับดังกล่าว โครงสร้างที่หนักแค่ 210 กิโลกรัมอัดแน่นไปด้วยความแข็งแกร่ง มันต้องรองรับแรงบิดแรงกระชากจากเครื่อง V10 525 แรงม้า รวมถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ รถ Audi R8 V10 FSI มีมวลทั้งสิ้น 1,620 กิโลกรัม และถือได้ว่าเป็นสปอร์ตคาร์รุ่นหนึ่งที่มีอัตราส่วนแรงม้าต่อน้ำหนักอยู่ในระดับดีเยี่ยม

วันอังคารที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2556